“ยู ซิตี้” ชงที่ประชุมสามัญผู้ถือหุ้นงดจ่ายปันผล หลังปี’64 ผลประกอบการพลิกมีกำไรสุทธิ 92 ล้านบาท จากขาดทุนสุทธิกว่า 6,600 ล้านบาทในปีก่อนหน้า
วันที่ 10 มีนาคม 2565 บริษัท ยู ซิตี้ จำกัด (มหาชน) หรือ U แจ้งตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET) ว่า คณะกรรมการบริษัทมีมติอนุมัติให้เสนอต่อที่ประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 2565 เพื่อรับทราบรายงานผลการดำเนินงานของบริษัท สำหรับรอบระยะเวลาบัญชีสิ้นสุดวันที่ 31 ธันวาคม 2564 รวมถึงอนุมัติให้เสนอต่อที่ประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 2565 เพื่อพิจารณาและอนุมัติการงดจ่ายเงินปันผล สำหรับรอบระยะเวลาบัญชีสิ้นสุดวันที่ 31 ธันวาคม 2564
ทั้งนี้ อนุมัติเรียกประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 2565 ซึ่งจะจัดให้มีขึ้นในวันจันทร์ที่ 25 เมษายน 2565 เวลา 14.00 น. ณ ห้องสุรศักดิ์ บอลรูม ชั้น 11 โรงแรมอีสติน แกรนด์ สาทร กรุงเทพฯ และกำหนดวันกำหนดรายชื่อผู้ถือหุ้นที่มีสิทธิเข้าร่วมประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 2565 (Record Date) ในวันพฤหัสบดีที่ 24 มีนาคม 2565
โดยก่อนหน้านี้ บริษัทได้รายงานผลประกอบการปี 2564 ว่า บริษัทมีรายได้รวม 6,572 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 16.3 จากปีก่อน ปัจจัยหลักมาจากกำไรที่ยังไม่มีการรับรู้จากการลงทุนใน JMART และ การฟื้นตัวของธุรกิจโรงแรมและอาคารสำนักงานให้เช่า หักลบด้วยการลดลงของรายได้จากธุรกิจโรงแรมในต่างประเทศที่มีการจำหน่ายออกไป
โดยมีกำไรจากการดำเนินงานก่อนค่าเสื่อมราคา ค่าตัดจำหน่าย ดอกเบี้ยและภาษี (EBITDA) อยู่ที่ 2,206 ล้านบาท เทียบกับขาดทุนจำนวน 2,888 ล้านบาท ในปี 2563 ส่วนอัตรากำไรจากการดำเนินงานก่อนค่าเสื่อมราคา ค่าตัดจำหน่าย ดอกเบี้ยและภาษี (EBITDA Margin) อยู่ที่ร้อยละ 33.6 ซึ่งเพิ่มขึ้นจากปี 2563 ที่ร้อยละ 51.1
การปรับตัวดีขึ้นของ EBITDA และ EBITDA Margin สาเหตุหลักมาจากการลดลงของรายการขาดทุนจากการด้อยค่า การเพิ่มขึ้นของรายได้ และการลดลงของต้นทุน คำใช้จ่ายในการขายและบริการ และค่าใช้จ่ายในการบริหาร
ส่งผลให้บริษัทมีกำไรสุทธิอยู่ที่ 92 ล้านบาท ปรับตัวเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญเมื่อเทียบกับปี 2563 ที่มีผลขาดทุนสุทธิ 6,614 ล้านบาท ผลขาดทุนที่ลดลงมีปัจจัยหลักมาจาก EBITDA ที่ปรับตัวดีขึ้น การลดลงของค่าเสื่อมราคาและต้นทุนทางการเงิน ซึ่งเป็นผลมาจากมาตรการการปรับโครงสร้างการลงทุนโดยการจำหน่ายทรัพย์สินในทวีปยุโรปบางส่วน การเพิ่มทุน การจ่ายชำระคืนเงินกู้ยืมบางส่วน รวมถึงส่วนแบ่งผลขาดทุนจากการร่วมค้าที่ลดลง
ทั้งนี้ บริษัทมีสินทรัพย์รวม ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2564 จำนวน 77,068 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 14,224 ล้านบาท หรือร้อยละ 22.6 จากวันที่ 31 ธันวาคม 2563 ปัจจัยสนับสนุนหลักมาจากการลงทุนใน A LIFE, JMART และ SINGER
ด้านอัตราส่วนหนี้สินที่มีภาระดอกเบี้ยสุทธิต่อส่วนของผู้ถือหุ้น (Net Interest Bearing Debt to Equity) ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2564 อยู่ที่ 0.37 เท่า ลดลงจาก 1.00 เท่า ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2563
อ้างอิง
https://www.prachachat.net/finance