แลนดี้ โฮม ตอกย้ำศูนย์รับสร้างบ้านอันดับ 1 เผยผลประกอบการตลอดปี 2564 โตเกินเป้าที่วางไว้ กวาดยอดขายรวม 2,500 ล้านบาท เนื่องจากการปรับขึ้นราคาของวัสดุก่อสร้าง 3-5% ในปี 2564 และการเพิ่มช่องทางการขายบนออนไลน์ผ่านทาง Google Meet มีผลกระตุ้นการตัดสินใจสร้างบ้าน พร้อมตั้งเป้าปี 2565 เป็นผู้นำด้าน e-Commerce เปิดให้ลูกค้าสามารถจองสร้างบ้าน Online พร้อมรับโปรโมชันพิเศษและขยายฐานลูกค้าใหม่กลุ่ม Green Living ด้วยนวัตกรรมเพื่อคุณภาพการอยู่อาศัยและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม

น ส.พรรัตน์ มณีรัตนะพร ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการและผู้อำนวยการฝ่ายขาย บริษัท แลนดี้ โฮม (ประเทศไทย) จำกัด เผยว่า แม้ปีที่ผ่านมาธุรกิจรับสร้างบ้านได้รับผลกระทบจากวิกฤติโควิด-19 แต่แลนดี้ โฮมสามารถเจาะกลุ่มตลาดบ้านหรูซึ่งโตสวนกระแส รวมถึงกลุ่มลูกค้าทราบข่าวการปรับราคาสร้างบ้านในปี 2564 ขึ้น 3-5% ประกอบกับการจัดแคมเปญกระตุ้นการตัดสินใจจองสร้างบ้านในไตรมาสที่ 3 และ 4 ควบคู่กับการติดตามลูกค้าอย่างต่อเนื่อง ปรับปรุงพัฒนาแบบบ้านให้ตรงใจลูกค้ามากที่สุดและเพิ่มช่องทางในการพูดคุยกับทางลูกค้าบน Online ผ่านทาง Google Meet ทำให้ลูกค้าสามารถตัดสินใจได้ทันทีไม่ต้องเข้ามาที่สาขา ส่งผลให้ผลประกอบการปี 2564 เติบโตกว่า 20% คิดเป็นมูลค่ายอดขายกว่า 2,500 ล้านบาท ซึ่งสูงกว่าเป้าที่ตั้งไว้ที่ 2,350 ล้านบาท โดยแบ่งสัดส่วนตามมูลค่าการปลูกสร้าง ดังนี้

บ้านหรูขนาดใหญ่ Brand Landy Grand ราคา 15 ล้านบาทขึ้นไป สัดส่วน 28% บ้านขนาดกลาง Brand Landy Home ราคา 5-10 ล้านบาท สัดส่วน 47% บ้านหลังเล็ก Brand Trendy Home ราคา 2-5 ล้านบาท สัดส่วน 25%

สำหรับปี 2565 แลนดี้ โฮม ตั้งเป้ายอดขายไว้ที่ 2,750 ล้านบาท โดยเน้นนโยบาย Go Green ขยายฐานลูกค้าในกลุ่มตลาดบ้าน Green Living ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์คนรุ่นใหม่ด้วยเทคโนโลยีเพื่อการอยู่อาศัยอย่าง Solar Roof และ EV chargers เป็นต้น พร้อมตั้งเป้าเป็นผู้นำด้าน e-Commerce ทั้งนี้ คาดว่าในครึ่งปีแรกจะสามารถปิดยอดขาย 1,200 ล้านบาท

น.ส.ภัทรา มณีรัตนะพร ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาดและพัฒนาผลิตภัณฑ์ บริษัท แลนดี้ โฮม (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวเสริมว่า ตลอด 2 ปีที่ผ่านมาสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ส่งผลให้แนวโน้มเศรษฐกิจในประเทศไทยและทั่วโลกต่างผันผวนและยังไม่สามารถคาดเดาสถานการณ์ได้ ทางบริษัทจึงมีการปรับกลยุทธ์ใหม่ๆ อยู่ตลอดเวลาเพื่อแข่งกับสภาพตลาด ทำธุรกิจด้วยความรวดเร็วและปรับตัวเร็วทันต่อสถานการณ์ ส่งผลให้ยอดขายโตสวนกระแส มาจากการขยับและเดินเกมเร็วนำหน้าคู่แข่ง ทั้งกลยุทธ์การตลาดที่แข็งแกร่ง ซึ่งพัฒนาจาก Customer Insight เป็นสิ่งที่เราให้ความสำคัญสูงสุด รวมถึงการรุกการขายในทุกช่องทางผ่าน Multi-Channel เพื่อตอบโจทย์คนอยากสร้างบ้านในยุคโควิด

 

สำหรับในปีนี้ทางแลนดี้ โฮม เน้นสร้างกลยุทธ์การตลาดทางสื่อออนไลน์เพิ่มขึ้น เพื่อสอดรับกับไลฟ์สไตล์ของกลุ่มลูกค้าในปัจจุบันของแลนดี้ โฮม โดยลูกค้าสามารถเลือกสร้างบ้านกับทางแลนดี้ โฮม และทำธุรกรรมผ่านทางอิเล็กทรอนิกส์ หรือ e-Commerce เน้นความสะดวกรวดเร็ว เพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้าได้อย่างทันท่วงที ลูกค้าสามารถตัดสินใจจองสร้างบ้านได้ตลอด 24 ชั่วโมง และทางแลนดี้ โฮม ได้มีการจัดแคมเปญโปรโมชันพิเศษให้ลูกค้าที่จองสร้างบ้านผ่านทางระบบ e-Commerce ในทุกๆ เดือนอีกด้วย ทางแลนดี้ โฮม ถือเป็นเจ้าแรกในธุรกิจรับสร้างบ้านที่สามารถจองสร้างบ้านผ่านทาง e-Commerce ได้ตลอด 24 ชั่วโมง โดยลูกค้าสามารถรูดบัตรจองสร้างบ้าน online ผ่าน www.landyhome.co.th นอกจากนี้ ในปี 2565 ทางแลนดี้ โฮม ได้มีการเปิดตัวแบบบ้าน Pool Villa Series เพื่อตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ช่วงโควิด-19 สำหรับกลุ่มลูกค้าที่มีลูกเล็กที่ไม่สามารถออกไปทำกิจกรรมนอกบ้านได้ สามารถเล่นน้ำในสระว่ายน้ำส่วนตัวได้

นายพานิช มณีรัตนะพร ผู้อำนวยการฝ่ายพัฒนาธุรกิจ บริษัท แลนดี้ โฮม (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวถึงเทคโนโลยีเพื่อการอยู่อาศัยของแลนดี้ โฮม ว่า แลนดี้ โฮม ยังให้ความสำคัญกับเทคโนโลยีการอยู่อาศัยในราคาที่จับต้องได้ อย่างเทคโนโลยีใหม่ล่าสุด CAP+ (แค็พพลัส) ระบบเติมอากาศบริสุทธิ์ภายในบ้าน ช่วยลดการสะสมของคาร์บอนไดออกไซด์กรองฝุ่น PM 2.5 ป้องกันเชื้อโรคเข้าสู่ภายในห้อง ซึ่งเราติดตั้งให้บ้านทุกหลังที่สร้างบ้านกับแลนดี้ โฮม และได้รับผลตอบรับเป็นอย่างดีจากลูกค้า เป็นหนึ่งในปัจจัยสำคัญในการเลือกตัดสินใจสร้างบ้านกับบริษัทฯ ไม่เพียงเท่านั้นเรายังเล็งเห็นความสำคัญของ Green Technology หรือเทคโนโลยีเพื่อสิ่งแวดล้อมสำหรับการอยู่อาศัย เช่น ลดการใช้พลังงานและทดแทนด้วยพลังงานสะอาด โดยมีแผนที่จะร่วมมือกับพันธมิตรในการนำเสนอสิ่งดีๆ ให้ลูกค้า เช่น EV Charger, Solar Panel และระบบป้องกัน รวมถึงระบายความร้อนจากภายนอกเพื่อการใช้พลังงานที่ลดลง อีกทั้งภายในปีนี้เรายังมีแผนที่จะพัฒนาสินค้าและบริการอีกมากมายที่ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ของลูกค้าเพื่อการอยู่อาศัยที่มีความสุขอย่างยั่งยืน

 

นอกจากนี้ ทางบริษัท แลนดี้ โฮม ได้ Co-Partner กับบริษัทต่างๆ เพื่อให้การสร้างบ้านกับบริษัท แลนดี้ โฮม เป็นแบบ One Stop Service รวมบริการต่างๆ ในการสร้างบ้านให้จบครบในที่เดียว เช่น Co-Partner กับบริษัทรับออกแบบตกแต่งภายใน บริษัทรับจัดสวน บริษัทรับสร้างสระว่ายน้ำ บริษัทติดตั้งลิฟต์ โดยพาร์ตเนอร์ที่กล่าวมาข้างต้นนี้ลูกค้าสามารถเลือกใช้บริการ พร้อมรับส่วนลดและสิทธิพิเศษต่างๆ ที่ได้เฉพาะลูกค้าแลนดี้ โฮม เท่านั้น

อ้างอิง
https://m.mgronline.com/stockmarket